วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ปอเปี๊ยะทอด

ปอเปี๊ยะทอด

สูตรที่1

เครื่องปรุง

- วุ้นเส้น 50 กรัม
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- หมูบด 200 กรัม
- กระเทียม รากผักชี โขลกละเอีอด 1 ช้อนชา
- ต้นหอมซอยละเอียด 2 ต้น (มากกว่านั้นก็ได้นะคะ ถ้าชอบหอมดี)
- ข้าวโพด 1/2 ถ้วย
- แครอทขูดละเอียด 1 หัวเล็ก
- น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ (ใส่สัก 2 ช้อนก่อนนะคะแล้วก็ชิมดู )
- น้ำตาล 2 ช้อนชา (เติมไปนิดๆ รสชาติจะได้กลมกล่อม)
- แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา
- น้ำเปล่า 2 ช้อนชา
- แผ่นปอเปี๊ยะ
- น้ำมันสำหรับทอด

วีธีทำ

- ลวกวุ้นเส้นพอสุก แล้วตัดเป็นท่อนๆ พักไว้ในชาม
- ใส่น้ำมันในกระทะผัดกระเทียม รากผีกชีที่โขลกแล้วให้หอม ใส่หมูบดลงไป ผัดจนหมูกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อน
- ใกล้สุกใส่เครื่องปรุงที่เหลือลงไป ยกเว้นแป้งและน้ำเปล่า ผัดให้สุก
- จากนั้นก็นำไปผสมกับวุ้นเส้นที่ลวกไว้แล้ว คนให้เข้ากัน พักไว้ให้เย็น
- ผสมแป้งกับน้ำเปล่า อันนี้เอาไว้ทาริมแผ่นแป้งห่อค่ะ จะได้ติดไม่แตกจากกันค่ะ
- ตักส่วนผสม 2 ช้อนโต๊ะต่อแป้ง 1 แผ่นนะคะ ทั้งหมดทำแล้วจะได้ 12 ชิ้นพอดีค่ะ
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ร้อน จากนั้นนำปอเปี๊ยะลงทอดให้เหลืองกรอบ เอาออกจากกระทะ รองด้วยตะแกรงหรือกระดาษไว้ซับมันค่ะ
- ส่วนน้ำจิ้มแอนไม่ทำเองนะคะ ซื้อเป็นขวดแบบสำเร็จเอาไว้ติดบ้านเลยค่ะ ก็เอาถั่วลิลงคั่วโรยนิดๆ สะดวกดี

สูตรที่ 2

เครื่องปรุง

- ไก่สับ 2 ถ้วย
- มันเทศ 2 ถ้วย (ต้มแล้วปอกเปลือก จากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ)
- ข้าวโพดต้มสุก 1/2 ถ้วย
- ต้นหอมซอย 1/2 ถ้วย
- Curry powder 1/2 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2-1 ช้อนชา (ถ้าไม่ชอบเค็ม อย่าใส่มาก)
- ซอสแม็กกี้ (อันนี้สำคัญ ขาดไม่ได้ค่ะ) 1 ช้อนชา
- กระทงสำเร็จ

- มาเริ่มกันเลยค่ะ ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน เอารากผักชี กระเทียม พริกไทย ที่โขกไว้แล้วลงไปผัดให้หอม
- จากนั้นใส่ไก่สับลงไป ผัดพอสุก ตามด้วยมัน ข้าวโพด เครื่องปรุง และต้นหอม ผัดต่อจนสุก ปิดไฟ แล้วพักไว้
- ตอกไข่ 1 ใบ ไว้สำหรับแต้มตอนม้วนปอเปี๊ยะ
- ได้เวลาทอดค่ะ

สูตรที่ 3

เครื่องปรุง

- แป้งปอเปี๊ยะ 1 ห่อ
- กะหล่ำปลี 4 ถ้วย หั่นละเอียด
- แครอทขูด 3/4 ถ้วย
- เผือกขูด 3/4 ถ้วย
- วุ้นเส้นกำเล็ก 1 กำ
- กระเทียมสับ 1 กลีบ
- น้ำมันหอย
- เกลือ
- พริกไทย
- ไข่

- อย่างแรกเลยก็เอาส่วนผสมมาผัด ไม่ต้องใส่น้ำมันนะคะ
- แล้วใส่เกลือ 1 ช้อนชา กับน้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ และพริกไทยนิดหน่
- ผัดสัก 3-4 นาทีด้วยไฟต่ำ จนผักสลดนิดหน่อยเสร็จแล้วเอาขึ้นพักให้เย็น รีใช้ตะแกรง 2 ชั้นน้ำจะได้หยดลงข้างล่าง ไส้จะได้แห้งๆค่ะ
- ทีนี้ก็เริ่มห่อนะคะ
- ใช้ไส้ประมาณ ช้อนทานข้าวอันใหญ่พูนๆค่ะ
- ทีนี้ก็พับขึ้น ทีนี้ก็พับซ้าย พับขวา ค่อยๆม้วนปอเปี๊ยะขึ้น แล้วทาไข่ก่อนพับปิด
- ปกติ ทำเยอะแต่วันนี้ทำแค่นี้ค่ะ นี่ห่อเสร็จหมดแล้ว เตรียมทอดได้ค่ะ ถ้าทานไม่หมด เอาใส่ช่องแข็งไว้เลย แล้วเวลาจะทานก็เอาออกมาทอดทีละนิดค่ะ
- เวลาทอดใช้น้ำมันเยอะหน่อยนะคะ ใช้ไฟแรงสุด 5 นาที แล้วลดไฟให้เหลือปานกลาง แล้วเอาลงทอดประมาณ 4-5 นาที หรือจนเหลืองค่ะ

ต้มแซบกระดูกอ่อน

ต้มแซบกระดูกอ่อน

ส่วนผสม

- กระดูกหมูอ่อน 1/2 กิโลกรัม
- ตระไคร้ 2 ต้น
- ข่า 1 ต้นใบมะกรูด 3 ใบ
- ผักชีฝรั่ง 3 ต้น
- พริกขี้หนูแห้งทอด 5 เม็ด
- ซุปไก่ก้อนคนอร์ 1 ก้อน
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 3 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

- นำกระดูกหมูอ่อนมาต้มในน้ำเดือดจนเปื่อยนิ่ม
- จากนั้นให้ใส่ใบมะกรูด ข่า ตระไคร้ ซุปไก่ก้อนคนอร์ลงไป
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว พริกป่น และพริกทอด ชิมรสตามต้องการ
- ตักใส่ถ้วย โรยผักชีฝรั่งซอย และผักชีซอย เสิร์ฟร้อนๆ

เคล็ดเด็ด

เพื่อทวีคูณความแซบ จี๊ดจ๊าด!! ต้มแซบควรมีรสชาติเปรี้ยว เค็ม และต้องทานตอนร้อนๆ

ปลาแรดทอด 4 รส



ปลาแรดทอด 4 รส

ส่วนผสม
1. ปลาแรด 1 ตัว (ตัวที่ใช้ทำหนัก 1 1/2 กิโล ถ้าปลาตัวเล็กกว่านี้ให้ลดเครื่องปรุงลงตามส่วน)
2. กระเทียม 20 กลีบ
3. น้ำตาลทราย, น้ำมะขามเปียก, น้ำปลา และแป้งมัน อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ
4. หอมใหญ่ 1/2 ลูก หั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ
5. มะเขือเทศ 1 ลูก หั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ
6. พริกขี้หนูสวน 20 เม็ด
7. น้ำจิ้มไก่ (ขวดเล็ก) 1 ขวด

วิธีทำ
1. ปลา ขอดเกล็ด ทอดทั้งตัวให้เหลืองกรอบ ก่อนทอดควรทาเกลือที่ตัวปลาเล็กน้อยและก่อนลงกระทะควรผึ่งปลาให้หมาดเสียก่อน ปลาจะได้ไม่ติดกระทะ การทอดควรใช้ไฟแรงก่อน พอใส่ปลาลงแล้วควรหรี่ไฟให้เหลือปานกลางหรือทอดไฟอ่อน ๆ ปลาจะเหลืองกรอบน่ารับประทาน
2. น้ำราด 4 รสตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อย นำพริก กระเทียม (ทุบแล้ว) ลงผัดไฟอ่อน ๆ พอกระเทียมเริ่มเหลืองเทน้ำจิ้มไก่ลงไปทั้งขวด เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย ใส่น้ำตาล น้ำมะขามเปียก น้ำปลา แล้วคนเบา ๆ พอน้ำตาลละลายใส่แป้งมันที่ผสมน้ำเล็กน้อยให้พอเหนียว ตามด้วยหอมใหญ่และมะเขือเทศ เสร็จแล้วปิดไฟทันที (จะทำให้มะเขือเทศและหอมใหญ่ไม่เหี่ยว)
นำปลาแรดที่ทอดสุกแล้ววางลงบนจาน บางท่านอาจตกแต่งจานให้สวยโดยการใช้ผักกาดหอมและมะเขือเทศช่วยให้ดูมีสีสันน่ารับประทาน เสร็จแล้วตักน้ำ 4 รส ราดลงบนตัวปลา เป็นอันเสร็จพิธี

วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

สูตรต้มยำกุ้งน้ำข้น รสเด็ด (Tom Yum Kung)

สูตรต้มยำกุ้งน้ำข้น รสเด็ด (Tom Yum Kung)

 เมนูอาหารไทย สูตรอาหาร : ต้มยำกุ้งน้ำข้น "Tom yum Kung" (Thai sour and spicy shrimp soup) รสเด็ด แซ่บเว่อร์ อาหารยอดนิยมของคนไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งยังเป็นอาหารที่ชาวต่างชาติมาเที่ยวประเทศไทยแล้วต้องสั่งทาน สำหรับวันนี้เราขอแนะนำสูตรต้มยำกุ้งน้ำข้น รสแซ่บกลมกล่อม มาฝากทุกท่าน สามารถทำขายหรือทำทานเองก็ได้ งั้นลองไปดูสูตรกันเลย ....

Thai sour and spicy shrimp soup

สูตรต้มยำกุ้งน้ำข้น 

สิ่งที่ต้องเตรียม
  • กุ้งกุลาดำ 15 ตัว
  • เห็ดโคนประมาณ 10-15 ดอก ใช้เห็ดนางฟ้าหรือเห็ดฟางแทนก็ได้
  • มะนาวใช้ 3 ลูก บีบน้ำได้ประมาณ 3 ช้อนกินข้าวแบบสั้น
  • พริกขี้หนูเม็ดเล็กใช้ 10 เม็ด
  • หัวหอมแดง 3-4 หัว
  • ตะไคร้ใช้ 2-3 ต้นไม่ใหญ่
  • ข่าแก่หั่นใช้ 5 แว่น
  • ใบมะกรูด 4-5 ใบ
  • รากผักชี 2-3 ต้น (ใครจะเพิ่มผักชีฝรั่งก็ใส่ได้ตามชอบใจ)
  • น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลาอย่างดี 2-3 ช้อนโต๊ะ (ต้องชิมรสประกอบ)
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • นมข้นไม่หวาน (ใช้คาร์เนชั่น) หรือใช้นมสดรสจืดยิ่งดีเลย 1 ถ้วย
  • น้ำซุป ถ้าไม่มี ใช้น้ำเปล่าแล้วใช้รสดีปรุงรสแทน
วิธีทำต้มยำกุ้งน้ำข้น
  1. นำตะไคร้มาทุบแบบหยาบ และหั่นประมาณ 1 นิ้ว ต่อด้วยหั่นข่า 1 แง่งให้เป็นแว่นๆ เพื่อให้ได้ประมาณ 5-7 แว่น ไม่ต้องหนามาก เอาแบบพอดีๆ
  2. หั่นผักชีเป็นฝอยๆ และนำรากผักชีไปทุบพอหยาบ และทุบพริกขี้หนูอีก 10 เม็ดให้พอหยาบเช่นกัน
  3. หั่นมะเขือเทศลูกใหญ่โดยผ่าให้ได้ 4 ชิ้น จากนั้นก็หั่นเห็ดฟางแบบครึ่งและเห็ดนางฟ้าฉีกครึ่ง ใบมะกรูดนำมาฉีกครึ่งเป็น 4 ส่วน
  4. ปอกเปลือกกุ้งสดให้สะอาด ผ่าหลังและล้างน้ำให้สะอาด รวมทั้งผักทุกชนิดที่เราจะรับประทาน จำเป็นต้องล้างน้ำให้สะอาดก่อนหั่น
  5. เตรียมน้ำพริกเผาผสมนมสด โดยนำนมสดหรือน้ำข้นไม่หวาน 1 ถ้วยมาผสมกับ น้ำพริกเผา บี้ให้ตัวพริกเผาไม่ให้จับตัวเป็นก้อน
  6. นำหม้อต้มใส่น้ำเปล่า 1 ลิตรที่ได้เตรียมไว้ โดยเริ่มตั้งไฟด้วยไฟแรง หลังจากนั้นก็ใส่ตะไคร้ทุบและข่าที่หั่นเตรียมไว้ และใส่รากผักชีทุบลงไปพร้อมๆ กันเลย
  7. เมื่อน้ำเดือดแล้วให้ใส่เห็ดฟางและเห็ดนางฟ้าไปพร้อมๆ กับกุ้งสดรอจนน้ำเดือด
  8. พอน้ำเดือด ให้หรี่ไฟเป็นไฟเป็นแบบปานกลาง จากนั้นก็ใส่เครื่องปรุงรสที่เราได้เตรียมไว้แล้ว นั้นก็คือ น้ำปลา มะนาว คน 1 รอบ ตามด้วยน้ำพริกเผาผสมนมสด และคนให้เข้ากันอีกรอบ และเปิดไฟแรงอีกครั้ง
  9. นำมะเขือเทศและพริกขี้หนู  และใบมะกรูดมาใส่ลงในหม้อ พอน้ำเดือดแล้วให้ปิดไฟทันที
  10. ยกลงมาเทใส่ถ้วย จากนั้นก็โรยหน้าด้วยผักชี ถือว่าเป็นอันเสร็จเรียบร้อย พร้อมเสิร์ฟแล้วล่ะอาจปรุงรสเพิ่มตามใจชอบ
เคล็ดลับความอร่อย
  • กุ้งจะใช้กุ้งตัวใหญ่หรือแบบตัวเล็กแกะเปลือกก็ได้ แล้วแต่ความชอบหรือสูตรของแต่ละร้าน (ดังเข่นรูปด้านล่าง)
  • สำหรับร้านที่จะนำสูตรไปทำขายควรทำรสชาติให้กลมกล่อม ไม่เปรี้ยว ไม่หวานมันมากเกินไป ซึ่งเป็นรสที่คนทั่วไปชอบ

ยำวุ้นเส้นกุ้งสด สูตรแซ่บ

ยำวุ้นเส้นกุ้งสด สูตรแซ่บ

อาหารไทยประเภทเส้น วันนี้นำเสนอ “ยำวุ้นเส้นกุ้งสด” สูตรแซ่บยกกำลังสอง เป็นอาหารประเภทยำที่ทำทานกันได้ง่ายๆไม่ยุ่งยาก ส่วนประกอบเครื่องปรุงน้อย ถูกใจคนชอบทานกุ้งเป็นพอเศษแน่นอน สำหรับสูตรนี้ดัดแปลงจากยำวุ้นเส้นกุ้งสด สูตรโบราณของ “ครัวดงละคอน” @Oknation.net เล็กน้อย เพื่อเพิ่มความแซ่บเข้าไป ลองไปดูวิธีทำกันเลย


อาหารไทย ยำวุ้นเส้นกุ้งสด

ส่วนประกอบและเครื่องปรุง
  • กุ้งสด 5-8 ตัว
  • หมูบดหรือหมูสับ ½ ถ้วย
  • พริกชี้ฟ้าหรือพริกขี้หนูก็ได้
  • หอมแดง (สำหรับยำวุ้นเส้นสูตรนี้จะไม่ใช้หอมหัวใหญ่ แต่จะใช้หอมแดงแทน)
  • มะเขือเทศ
  • ต้นหอม+ผักชีหั่นเอาไว้
  •  วุ้นเส้น
  • ถั่วลิสงทอด
  • กุ้งแห้ง
  • มะนาว
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลทราย
 อาหารไทย ยำวุ้นเส้นกุ้งสด
 วิธีทำ
  1. ล้างผักทุกชนิด และล้างกุ้งให้สะอาด ผ่าหลัง เอาเส้นดำออก 
  2. เอากระเทียมกับพริกสดตำให้แหลก และเอามาใส่ในถ้วย ปรุงเครื่องด้วยน้ำตาลทราย มะนาว และน้ำปลา คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสน้ำยำตามแบบที่ตัวเองชอบ
  3. นำหมูสับไปลวกให้สุก (หรือที่เรียกแบบบ้านๆ ว่า รวนหมู นั้นแหละครับ) ใส่ชามพักไว้ ตามด้วยกุ้งสดลวกด้วยน้ำต้มเดือด ลวกเพียงแป๊บเดียว ไม่ต้องสุกมาก เพราะเนื้อกุ้งจะแข็ง ไม่อร่อย ให้เนื้อออกขาว ใสๆ ก็ใช้ได้แล้ว ลวกเสร็จนำมาใส่ชามรวมกับหมูสับ พักไว้ก่อน
  4. หลังจากนั้น นำวุ้นเส้นไปลวกในน้ำต้มเดือด พอสุกลักษณะเส้นจะใส เหนียว นุ่ม จากนั้นนำมาใส่ชาม แล้วคลุกเคล้าหมูสับ, กุ้งและวุ้นเส้นเข้าด้วยกัน ด้วยความไวนิดหนึ่งนะครับ 
  5. เอาน้ำยำที่ได้ใส่คลุกเคล้ากับวุ้นเส้น หมูบด กุ้งสดที่คลุกเคล้ากันไว้แล้ว ชิมรส ปรุงรสตามที่ชอบ
  6. นำมะเขือเทศ หอมแดง ผักชีที่หั่นไว้แล้ว และถั่วลิสงทอด ใส่ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง ชิมรส และปรุงรสตามชอบได้เลย
  7. จัดใส่จานและก็ตักเสิร์ฟได้ทันที



ลองไปทำทานกันดูนะครับ สำหรับอาหารไทย "ยำวุ้นเส้นกุ้งสด" รับรองอร่อย แซ่บเว่อร์ แน่นอน สุดท้ายนี้ขอบคุณภาพประกอบจากครัวดงละคอน

การหมักหมูแดดเดียว สูตรหมูทอดแดดเดียว

การหมักหมูแดดเดียว สูตรหมูทอดแดดเดียว

หมูแดดเดียว อาหารคู่บ้านคนไทยก็ว่าได้ เมนูอาหารในวันนี้ขอแนะนำ สูตรหมูแดดเดียว (Thai Pork Jerky Recipe) พร้อมแนะนำวิธีการหมักหมูแดดเดียวให้อร่อยแบบแซ่บเวอร์ ซึ่งรสชาติเมื่อทอดเสร็จจะออกกลมกล่อม ไม่จืด ไม่เค็ม โดยสูตรนี้ใช้เนื้อหมูประมาณหนึ่งกิโล ไปดูส่วนประกอบและเครื่องปรุงกันเลย...
สูตรหมูแดดเดียว

เครื่องปรุงและส่วนผสม
  • เนื้อหมู 1 กิโลกรัม 
  • กระเทียม 1 หัวครึ่ง
  • รากผักชี 5-6 ราก 
  • พริกไทย 2 ช้อนชา 
  • งาขาว 3 ช้อนโต๊ะ 
  • น้ำตาล 4 ช้อนชา 
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 
  • ซอสหอยนางรม 4 ช้อนโต๊ะ 
  • ผงปรุงรสเนื้อ 1 ช้อนโต๊ะ 
วิธีทำ
  1. ล้างเนื้อหมูให้สะอาด นำนื้อหมูมาแล่ เป็นชิ้นบางหน่อย (หนาประมาณ 1 เซ็นติเมตร) แต่อย่าบางมาก ถ้าบางมากไป เวลานำไปตากแดดจะแห้งมากเกินไป เนื้อหมูบางส่วนอาจท่อนเป็นชิ้นๆด้วยก็ได้
  2. โขลกกระเทียม รากผักชี พริกไทยให้ละเอียด ได้ที่แล้วนำไปหมักเนื้อหมู
  3. จากนั้นเติมน้ำตาล, น้ำปลา, ซอสหอยนางรม, งาขาว และผงปรุงรส ลงไป 
  4. คลุกเคล้าหรือนวดด้วยมือจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี และทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง 
  5. นำเนื้อหมูไปตากแแดดไว้ประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง กลับเนื้อหมูบ้างเป็นระยะ  (โดยตากแดดไปสัก 2 ชั่วโมงเนื้อหมูด้านหนึ่งจะแห้งก็ทำการกลับเนื้อหมูแล้วตากอีกด้านไปอีก 2 ชั่วโมง) 
  6. สำหรับการทอด ให้ใส่น้ำมันลงในกระทะและนำไปตั้งไฟ รอจนน้ำมันร้อนจึงนำหมูหมักลงไปทอดจนสุกทั่ว จัดหมูทอดใส่จานพร้อมเสริฟ
เคล็ดลับ
  • การหมักหมู ถ้าหมักไว้นานเครื่องปรุ่งรวมส่วนผสมแล้วจะเป็นน้ำ จะเสียความเข้มข้นตรงนั้นไป 
  • น้ำตาลทรายขาว ยิ่งเม็ดละเอียดมากยิ่งดี
  • งาขาว จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ ถ้าใส่ก็ดูสวยงามดี ได้กินงาขาวด้วย และจะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมของหมูทอด
  • การตากเนื้อหมูถือว่าสำคัญเหมือนกัน ถ้าแดดจัด แดดแรง หากตากนานเกินไป เนื้อหมูจะแห้งเกินไป เวลาทอดแล้วเนื้อจะแข็งแต่ก็ทานได้ ดังนั้นหากแดดแรง ตากเนื้อหมูแค่พอหมาดๆ ก็เก็บได้เลย
  • สำหรับเวลาทอดนั้น ควรใช้ไฟปานกลาง อย่าใช้ไฟแรงมากเพราะเนื้อหมูจะแข็ง
  • สำหรับเครื่องปรุงที่ใช้หมักหมูนั้น ใครชอบหวาน ก็ใส่น้ำตาลเพิ่มมากหน่อย ใครชอบเค้มก็ใส่น้ำปลามากหน่อย
  • จัดหมูทอดแดดเดียวในจานพร้อมผักสดต่างๆ ; แตงกวา, มะเขือเทศ, กะหล่ำปลี, อื่นๆ และน้ำจิ้ม ช่วยเพิ่มความอร่อยได้เป็นอย่างดี
หมูแดดเดียว

ข้าวผัดน้ำพริกกะปิ (Fried Rice With Shrimp Paste)

ข้าวผัดน้ำพริกกะปิ (Fried Rice With Shrimp Paste)


อาหารจานด่วน วันนี้แนะนำ ข้าวผัดน้ำพริกกะปิ (Fried Rice With Shrimp Paste) เหมาะสำหรับทำขายเป็นอาหารตามสั่งหรือทำไว้ทานเองก็อร่อยเป็นอย่างดี มาดูสิ่งที่ต้องเตรียมและวิธีทำกันเลย ...


ส่วนผสมข้าวผัดน้ำพริกกะปิ
  • ข้าวสวย 1 ถ้วย
  • กุ้งแห้งทอด 1/2 ถ้วย
  • กระเทียมสับละเอียด 1 หัว
  • คะน้า 1 ต้น
  • มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้น 1 ผล
  • พริกชี้ฟ้า 2 เม็ด
  • แตงกวา 1 ผล
  • ต้นหอม 2 ต้น
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
  • นำกระทะขึ้นตั้งบนเตาใส่น้ำมันพืช ใส่กระเทียมเจียวพอเหลือง
  • ใส่น้ำกะปิ ข้าว ลงผัดให้เข้ากันเป็นอย่างดีแล้ว ใส่คะน้าหั่น กุ้งแห้งทอด มะเขือเทศ ผัดรวมกัน
  • ตักใส่จาน หั่นแตงกวา หั่นพริก ต้นหอมวางข้างจาน 
  • เพิ่มความอร่อยและสีสันด้วยปลาทูทอด ไข่ต้ม ไข่ดาว ไข่ชะอม หรือหมูหวาน วางรอบจาน ตามความชอบเลย